วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

Malware

Virus = แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมันเองเข้าไป แต่มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ ต้องอาศัยไฟล์พาหะ
สิ่งที่มันทำคือ สร้างความเสียหายให้กับไฟล์

Worm = คัดลอกตัวเองและสามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้อย่างอิสระ โดยอาศัยอีเมลล์, ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการหรือการเื่ชื่อมต่อที่ไม่มีการป้องกัน มันจะไม่แพร่เชื่อไปติดไฟล์อื่น
สิ่งที่มันทำคือ มักจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่าย และระบบอินเทอร์เน็ต

Trojan = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ ต้้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวน์โหลดเอาไปใส่เครื่องเอง หรือด้วยวิธีอื่นๆ 
สิ่งที่มันทำคือ เปิดโอกาสให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาควบคุมเครื่องที่ติดเชื้อจากระยะไกล ซึ่งจะทำอะไรก็ได้ และโทรจันยังมีอีกหลายชนิด

Spyware = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวน์โหลดเอาไปใส่เครื่องเอง หรืออาศัยช่องโหว่ของ Web browser และระบบปฏิบัติการในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อ
สิ่งที่มันทำคือ รบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้


Phishing = เป็นเทคนิคการทำ Social Engineer โดยใช้อีเมลล์เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินบนอินเตอร์เน็ต เช่น บัตรเครดิต หรือพวก online bank account


คำแนะนำในการป้องกันคอมพิวเตอร์จากมัลแวร์เพื่อป้องกันเครื่อง คอมพิวเตอร์ให้ปลอดภัยจากมัลแวร์ต่างๆ และเพื่อป้องกันข้อมูลต่างๆ สูญหาย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ท่านปฏิบัติตามแนวทางดังนี้
1. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและสปายแวร์ โดยต้องทำการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ (ทุกวัน)
2. ใช้วินโดวส์ไฟร์วอลล์หรือติดตั้งโปรแกรมไฟร์วอลล์ เพื่อป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ให้ถูกบุกรุกจาก Hacker หรือ มัลแวร์ต่างๆ 
3. อัพเดทระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ 
4. ให้ท่านใช้ Account ที่มี Privilege แบบผู้ใช้ธรรมดา (Limited user) ในการใช้งานประจำวันหรือการใช้งานทั่วๆ ไป
5. ในกรณีที่ต้องทำการแชร์ไฟล์ข้อมูลต่างๆ ให้ทำการแชร์แบบอ่านอย่างเดียว (Read Only) เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) ถ้าจำเป็นต้องทำการแชร์แบบ Read-Write ให้กำหนดรหัสผ่านสำหรับการแชร์แบบ Write ทุกๆ ครั้ง
6. เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลเนื่องจากระบบวินโดวส์เสีย ให้แยกข้อมูลต่างๆ ไปเก็บไว้บนไดร์ฟไม่ใช่ไดร์ฟที่ระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่ เช่น ไดร์ฟ D:\
7. เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลเนื่องจากฮาร์ดดิสก์เสีย ให้ทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญๆ ลงแผ่นซีดีหรือดีวีดี หรือ Flash drive
8. ควรทำอิมเมจของไดร์ฟที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อใช้ในการกู้คืนระบบในกรณีที่วินโดวส์หรือฮาร์ดดิสก์เสีย
9. ไม่ควรติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ได้มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ได้มาจากการดาวน์โหลดทางเว็บไซต์ เนื่องจากอาจทำให้เครื่องมีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) สูงขึ้น
10. ไม่ควรติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นในการทำงาน เพราะนอกจากอาจทำให้เครื่องมีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) สูงขึ้นแล้ว ยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงได้
11. กำหนดรหัสผ่านให้กับ Administrator และทำการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและเป็นความลับ และควรทำการเปลี่ยนรหัสผ่านทุก 42 วัน (เป็นอย่างมาก)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น