1. Nontechnical attack
Social engineering: เป็นภัยคุกคามที่ใช้เล่ห์กลต่างๆ
เพื่อให้เราเปิดเผยข้อมูล
2. Technical attack: คือ ภัยคุกคามจากผู้มีความรู้ด้าน system and software
3. Network Security
Officer หมายถึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเครือข่าย
ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการจากผู้ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ให้มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องในเรื่องที่เกี่ยวข้องภายในระบบข้อมูลอัตโนมัติ
4. O Open Security หมายถึง สิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้มีการรับรองที่เพียงพอว่าอุปกรณ์และ application ต่างๆได้รับการปกป้องจากความเจตนาร้าย
ทั้งก่อนและระหว่างการปฏิบัติงานของระบบ
5. Open Systems Security หมายถึง การรักษาความปลอดภัยในระบบเปิดเครื่องมือต่างๆที่ใช้สำหรับทำให้การเชื่อมต่อของเครือข่ายของระบบเปิด
(open systems) ต่างๆมีความปลอดภัย
6. Operational Data
Security หมายถึง การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลการปฏิบัติการ การปกป้องข้อมูลการเปลี่ยนแปลง, ทำลาย, หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งโดยอุบัติเหตุและโดยเจตนาในระหว่างการ input,
processing, และ output
7. Operations Security (OPSEC) หมายถึง ปฏิบัติการความปลอดภัย
กระบวนการพิสูจน์ทราบข้อมูลสำคัญและการวิเคราะห์การกระทำของฝ่ายเราที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารและกิจกรรมอื่นๆ
8. Computer Forensic
คือ การค้นหา และเก็บหลักฐานทางดิจิตอลที่อยู่ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
เช่น ไฟล์ที่อยู่ใน พีซี โน้ตบุ๊ก หรือพีดีเอเป็นต้น หรือหลักฐานดิจิตอลที่ถูกสร้างจากระบบคอมพิวเตอร์
เช่น บันทึกการใช้งานโทรศัพท์ ข้อมูลของการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นต้น
ซึ่งหลักฐานทั้งหมดนี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ว่าหลักฐานนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร จากอะไร
ตอนนี้ใช้ทำอะไร และถูกใช้โดยใครเป็นต้น โดยการทำ Computer Forensic จะประกอบไปได้ด้วย การเก็บหลักฐาน การพิสูจน์ความถูกต้องของหลักฐาน
และการวิเคราะห์หลักฐานเพื่อนำเสนอในชั้นศาล
9.Secure Socket Layer: SSL
คือ มาตรฐานของ Protocol การสื่อสารที่มีกระบวนการพิสูจน์ตัวตนรวมอยู่ในชุด
Protocol โดย SSL ถูกออกแบบและกำหนดรายละเอียดโดยบริษัท
Netscape เมื่อ ค.ศ. 1994 เพื่อบริการความปลอดภัยแก่ข้อมูลในระหว่างชั้นProtocol
ระดับแอปพลิเคชั่น (เช่น HTTP, Telnet, NNTP, หรือ
FTP) กับ Protocol TCP/IP และเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับโปรแกรม
Web browsers และเครื่อง servers บนเครือข่าย
Internet โดย SSL ทำให้เกิดการสื่อสารอย่างปลอดภัยระหว่างไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์
โดยการอนุญาตให้มีกระบวนการพิสูจน์ตัวตนร่วมกับการใช้งานลายเซ็นดิจิตอลสำหรับการรักษาความถูกต้องของข้อมูลและการเข้ารหัสข้
อมูล (data encryption)เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวระหว่างการสื่อสารข้อมูล
website ที่ใช้ SSL จะมีรูปกุญแจอยู่มุมล่างของ
web browser, web address จะขึ้นต้นด้วยคำว่า https
10. Certificate Authority or CA: ผู้ประกอบการรับรองใบรับรองดิจิตอล
คือ บุคคลที่สามที่น่าเชื่อถือ (Trusted third party) ทำหน้าที่ออกใบรับรองดิจิตอล และทำหน้าที่เหมือน เจ้าหน้าที่ passport
ซึ่งมีหน้าที่ทวนสอบ (verifies) รูปพรรณ (identity)
ของผู้ถือใบรับรอง (certificate's holder) ใบรับรองดิจิตอลทนต่อการถูกรบกวน
(tamper-proof) และไม่สามารถทำปลอมได้ใบรับรองดิจิตอลทำหน้าที่
2 อย่างคือ
1. พิสูจน์ผู้ถือใบรับรองตัวจริง (บุคคล เว็บไซต์ เราเตอร์ ฯลฯ)
2. ป้องกันข้อมูลที่ถูกแลกเปลี่ยนonline จากขโมยหรือการรบกวน
(theft or tampering)
คือ การค้นหา และเก็บหลักฐานทางดิจิตอลที่อยู่ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น ไฟล์ที่อยู่ใน พีซี โน้ตบุ๊ก หรือพีดีเอเป็นต้น หรือหลักฐานดิจิตอลที่ถูกสร้างจากระบบคอมพิวเตอร์ เช่น บันทึกการใช้งานโทรศัพท์ ข้อมูลของการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นต้น ซึ่งหลักฐานทั้งหมดนี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ว่าหลักฐานนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร จากอะไร ตอนนี้ใช้ทำอะไร และถูกใช้โดยใครเป็นต้น โดยการทำ Computer Forensic จะประกอบไปได้ด้วย การเก็บหลักฐาน การพิสูจน์ความถูกต้องของหลักฐาน และการวิเคราะห์หลักฐานเพื่อนำเสนอในชั้นศาล
คือ มาตรฐานของ Protocol การสื่อสารที่มีกระบวนการพิสูจน์ตัวตนรวมอยู่ในชุด Protocol โดย SSL ถูกออกแบบและกำหนดรายละเอียดโดยบริษัท Netscape เมื่อ ค.ศ. 1994 เพื่อบริการความปลอดภัยแก่ข้อมูลในระหว่างชั้นProtocol ระดับแอปพลิเคชั่น (เช่น HTTP, Telnet, NNTP, หรือ FTP) กับ Protocol TCP/IP และเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับโปรแกรม Web browsers และเครื่อง servers บนเครือข่าย Internet โดย SSL ทำให้เกิดการสื่อสารอย่างปลอดภัยระหว่างไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์ โดยการอนุญาตให้มีกระบวนการพิสูจน์ตัวตนร่วมกับการใช้งานลายเซ็นดิจิตอลสำหรับการรักษาความถูกต้องของข้อมูลและการเข้ารหัสข้ อมูล (data encryption)เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวระหว่างการสื่อสารข้อมูล website ที่ใช้ SSL จะมีรูปกุญแจอยู่มุมล่างของ web browser, web address จะขึ้นต้นด้วยคำว่า https
1. พิสูจน์ผู้ถือใบรับรองตัวจริง (บุคคล เว็บไซต์ เราเตอร์ ฯลฯ)
2. ป้องกันข้อมูลที่ถูกแลกเปลี่ยนonline จากขโมยหรือการรบกวน (theft or tampering)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น